เที่ยวหนึ่งวันในเมืองจอมเพชร
ความล้ำค่าที่ซ่อนอยู่: เที่ยวหนึ่งวันในเมืองจอมเพชร
เรามาทำความรู้จักกันว่าทำไมเมืองจอมเพชรถึงเป็นที่รู้จักกันในนามของภูเขาเพชร ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองแห่งความลับของแขวงหลวงพระบาง โดยการเดินทางในทริปนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัดโบราณ และหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิม และสนุกสนานกับกิจกรรมโหนสลิงจากยอดต้นไม้
วิธีที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมเมืองจอมเพชรคือการปั่นจักรยานหรือขับขี่รถจักรยานยนต์ เพราะคุณสามารถนำรถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ลงเรือข้ามฟากสาธารณะที่รอรับส่งข้ามแม่น้ำโขงได้ เมื่อข้ามฟากไปแล้วเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางแรก คุณจะต้องผ่านเนินเขาและเลี้ยวขวาในแยกแรกและตรงไปที่หมู่บ้านเชียงแมน
1. วัดเชียงแมน
วัดนี้เป็นวัดที่สวยงามที่สุดในเมืองจอมเพชร อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติ ศาสตร์ของภูมิภาคนี้ วัดเชียงแมนถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ถูกจำลองแบบให้คล้ายกลับพระวิหารวัดเชียงทองที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวงพระบาง หลังคามุงด้วยเครื่องตกแต่งที่สวยงาม พื้นของวัดปูด้วยกระเบื้องที่นำเข้าจากฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 มีสีดำ สีเทา และสีขาว คุณจะสังเกตเห็นอุโบสถมากมายหลายแห่งถัดจากวิหารใหญ่ ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยนายกรัฐมนตรีลาวในปี ค.ศ. 2013 เพื่อปกป้องพระพุทรูปอันล้ำค่าของวัดจากการปล้น ในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปมากกว่า 200 องค์ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงพระพุทธรูปตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
2. วัดจอมเพชร
ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำโขงทางทิศเหนือของบ้านเชียงแมน ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปได้ 2 ทางคือ ทางรถ ที่นำรถขึ้นแพข้ามฝั่ง และทางเรือ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที วัดจอมเพชรเป็นวัดที่มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงของเมืองจอมเพชร ตั่งอยู่บนยอดภูเพชร ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำโขงและตัวเมืองหลวงพระบาง จากการบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่และชาวบ้าน วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 โดยเจ้าหมื่นไวยวรนารถ (ภายหลังได้เป็นเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี) แม่ทัพสยาม(ประเทศไทยในปัจจุบัน) เมื่อครั้งนำทัพไปปราบฮ่อ วัดแห่งนี้ได้สร้างและบูรณะโดยช่างฝีมือชาวลาวและช่างฝีมือชาวไทย แต่ผนังด้านในจะเป็นจิตรกรรมแบบจีนและไทย
3. วัดล่องคูน
หากมีเวลามากพอสำหรับการท่องเที่ยวในหนึ่งวันนี้เราแนะนำให้คุณเดินทางไปต่อที่วัดล่องคูน ในขณะที่เดินขึ้นบันไดไปยังทางเข้าของบริเวณวัด คุณจะได้พบต้นปาล์มขนาดมหึมาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อเดินไปที่ประตูทางเข้าวัด สิ่งแรกที่คุณจะสังเกตเห็นคือภาพวาดทวารบาลทหารจีน วัดถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 กลายเป็นสถานที่อาศัยสำหรับทหารจีนในปี 1890 เมื่อพวกเขามาทำศึกสงครามในหลวงพระบาง มีเรื่องเล่ากันว่า ทหารที่มาพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ไม่สามารถนอนหลับได้เนื่องจากมีวิญญาณชั่วร้ายที่คอยปลุกพวกเขาให้ตื่น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้วาดภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้ขึ้นเพื่อปกป้องกองทหาร และทำให้เงียบสงบในระหว่างเข้าพัก นอกจากนี้คุณยังจะพบภาพวาดอันงดงามบนผนังภายในวัด ที่อธิบายถึงชีวิดของพระเจ้าสิบชาติ
วัดล่องคูนนับเป็นวัดที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระราชพิธีราชาภิเษกของเจ้ามหาชีวิต ซึ่งหลายพระองค์ทรงผนวชที่วัดล่องคูนก่อนขึ้นครองราชย์สมบัติ จนมาถึงรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสององค์สุดท้ายและองค์มกุฎราชกุมารได้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 1975 เสียก่อนจึงได้ยกเลิกธรรมเนียมปฏิบัติที่ว่านี้ไป ด้านหลังของวัดจะมีศาลาเก่าสองหลังและห้องเดินจงกรมสี่เหลี่ยมยาวทาด้วยสีขาว ไม่มีหน้าต่าง อาคารทั้งหมดเป็นสถานที่สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์มานั่งสมาธิตลอดทั้งปี คุณสามารถเข้าไปในห้องเดินจงกรมเพื่อทำสมาธิในคืนพระจันทร์เต็มดวง และคืนพระจันทร์แรม ยังเป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์และพระบรมวงศานุวงศ์ในการทำเดินปิดตาทำสมาธิด้วยการเดินขึ้นและลง
4. วัดถ้ำศักกะริน
คุณรู้หรือไม่คนลาวเชื่อว่าถ้าน้ำในถ้ำหยดลงบนศีรษะของคุณจะทำให้คุณโชคดี?
ถ้ำเล็กๆแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดล่องคูนสามารถเดินมาได้ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1902 ในรัชกาลของเจ้าคำสุก สักกะริน วัดนี้จะอยู่ถัดจากวัดจอมเพชรไปทางทิศเหนือ ด้านบนของวัดมีถ้ำที่เกิดจากธรรมชาติที่สวยงาม ภายในถ้ำสักกะรินมีหินที่มีรูปทรงคล้ายกับนกอินทรีย์ ด้านล่างของหินจะมีหินรูปทรงคล้ายอ่างน้ำ และจะมีน้ำหยดออกมาจากเพดานของถ้ำลงบนอ่างน้ำนั้นจนกลายเป็นบ่อน้ำ และในบุญปีใหม่ลาวของทุกๆปี ประชาชนท้องถิ่นจะพากันไปตักน้ำนั้นมาสรงน้ำพระพุทธรูป และนำมาลูบหัว เพราะเชื่อกันว่าเป็นน้ำที่ศักดิ์สิทธ์ที่จะนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตและขจัดสิ่งไม่ดีให้หมดสิ้นไป
5. พักเที่ยง
ริมฝั่งแม่น้ำโขงนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารให้เลือกมากมายนัก ดังนั้นเราแนะนำให้นำขนมหรือของว่างใส่ในกระเป๋าเป้ของคุณไปด้วย ประตูลงจากวัดเชียงแมนคุณจะพบร้านก๋วยเตี๋ยวสไตล์ท้องถิ่นตั้งขายอยู่นอกบ้าน ซึ่งคุณสามารถอิ่มอร่อยกับไก่นึ่ง เนื้อวัวนึ่ง หรือเนื้อหมูที่นึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารที่บรรยากาศดีมีระเบียงที่สามารถมองเห็นแม่น้ำอยู่ฝั่งขวามือเหนือท่าเรือ ซึ่งให้บริการอาหารพื้นเมืองลาวและอาหารไทย
6. บ้านจ่านเหนือ
มีชื่อเสียงทางด้านเครื่องปั้นดินเผา มีทั้งโอ่งน้ำ ไห ครก หม้อ แจกันดอกไม้ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ตรงข้ามตัวเมืองหลวงพระบาง ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาของบ้านจ่านสามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศลาว เช่น ในบ้านเรือน สวน หรือตามโรงแรมที่มีชื่อเสียงต่างๆ ซึ่งแจกันดอกไม้และไหของบ้านจ่านมีมากกว่า 50 แบบ และยังสามารถผลิตตามสั่งได้อีกหลายรูปแบบโดยช่างหัตถกรรมปั้นดินในบ้านจ่าน บ้านจ่านห่างจากท่าเรือจอมเพชรเพียง 4 กิโลเมตร หากคุณปั่นจักรยานไปจะง่ายกว่า เมื่อคุณมาถึงหมู่บ้านให้เลี้ยวขวาที่สี่แยก และคุณจะพบหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา ประมาณ 100 เมตร บนถนนลูกรังทางด้านขวามือมีท่าเรือบ้านจ่าน ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยหลังจากการเดินหรือขี่จักรยาน คุณสามารถนั่งเรือและนำรถจักรยานของคุณขึ้นบนเรือเพื่อเดินทางกลับไปหลวงพระบาง หากคุณต้องการเรียนรู้การทำหม้อดินและลองลงมือทำ จะมีบริษัททัวร์หลายแห่งในหลวงพระบางที่สามารถจัดคอร์สเรียนให้คุณได้
7. น้ำตกร้อยคัว
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองจอมเพชร ภายในบริเวณน้ำตกมีความสงบร่มรื่นและมีความสูง 100 เมตร ในช่วงฤดูฝนน้ำตกจะมีปริมาณน้ำที่มากและไหลแรง สร้างความตระการตาต่อผู้พบเห็น เป็นสถานที่คลายร้อนที่ดีอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกแห่งนี้บริษัทลาวกรีนเป็นผู้บริหารจัดการและสร้างกระท่อมขนาดเล็กถัดไปจากน้ำตก ท่านสามารถมากับเพื่อนและครอบครัวเพื่อผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเสียงน้ำตก ตรงข้ามกับน้ำตกจะมีสวนดอกไม้หลากหลายชนิด หลากสีสันให้ได้ชื่นชม
คุณสามารถจองการเดินทางของคุณกลับทางบริษัท เว็บไชต์ ซึ่งรวมค่าตั๋วเรือและยานพาหนะที่จะเข้าไปชมสวน